ในตอนนี้เราจะสร้าง IVR ระบบตอบรับที่ใช้ในบริษัท

ในกรณีที่เราติดตั้งจาก source โฟลเดอร์คอนฟิกจะอยู่ที่ /usr/local/freeswitch/conf/

แต่ถ้าติดตั้งจาก packages โฟลเดอร์คอนฟิก คือ /etc/freeswitch/

 

 

โฟลเดอร์ dialplan จะเก็บ xml ไฟล์ที่จัดการเรื่อง call routing

โฟลเดอร์ directory จะเก็บ xml ไฟล์ของ extensions

โฟลเดอร์ ivr_menus จะเก็บ xml ไฟล์ที่กำหนดการทำงานของ IVR

โฟลเดอร์ sip_profiles จะเก็บ xml ไฟล์ที่กำหนดคุณสมบัติของ SIP User Agent ทั้งฝั่ง trunk และฝั่ง extension

 

 

สร้างไฟล์ main_menu.xml ในโฟลเดอร์ ivr_menus

 

 

greet-long คือ เสียงหลักของ main menu เช่น บริษัท ABC สวัสดีค่ะ ติดต่อsales กด 1 ติดต่อฝ่ายเทคนิค กด 2 ติดต่อฝ่ายบัญชี กด 3

ติดต่อฝ่ายบุคคล กด 4 ร้องเรียน กด 5 หรือกดหมายเลขภายในที่ท่านทราบ เป็นต้น

greet-short คือ เสียงรองของ main menu กล่าวคือ  ถ้าจะ play main menu ซ้ำก็จะ play เฉพาส่วนที่ให้ผู้โทรเลือก (ตัวเลือก 1-5)

(ไม่มีคำว่า บริษัท ABC สวัสดีค่ะ)

invalid-sound คือ เสียง ivr ที่ play เมื่อผู้โทร กดตัวเลขที่ไม่มีใน menu (ท่านกดผิด กรุณากดใหม่)

exit-sound คือ เสียง ivr ที่ play เมื่อผู้โทรกดผิดครบจำนวนครั้ง (max-failures) หรือลูกค้าไม่กดอะไรเลยจน ivr timeout ครบจำนวนครั้ง (max-timeouts)

timeout คือ ระยะเวลาที่ ivr รอให้ผู้โทรเลือกกดตัวเลือกต่างๆ ถ้าผู้โทรไม่กด ivr ก็จะถือว่ามี timeout เกิดขึ้น

digit-len คือ จำนวนตัวเลขมากที่สุด ที่ ivr จะรับจากผู้โทร

ในส่วนที่เลือกตัวเลือก 1-5 ระบบจะโอนไป extension 3901-3905 ตามลำดับ

extension 3901-3905 อาจจะกำหนดให้เป็น ring group ตามตัวอย่างบทความในตอนที่ 5

ในส่วน entry บรรทัดที่ 6 สามารถกดเบอร์ภายในได้เลย

entry บรรทัดที่ 7 กด 9 จะกลับมา play main menu อีกครั้ง (ใช้ greet-short)

ส่วนเสียงที่บันทึก main_long.wav, main_short.wav, invalid.wav, ใช้ format ดังนี้ wav file uncompressed, 16 bit resolution,

8000 Hz sampling rate แล้ว upload ไปที่โฟลเดอร์ /usr/local/freeswitch/sounds/en/us/callie/custom/

ขั้นตอนสุดท้าย คือ การสร้าง extension เพื่อโทรเข้า main menu อาจจะเขียน code ลงในไฟล์

/usr/local/freeswitch/conf/dialplan/default.xml หรือจะสร้างไฟล์ใหม่ในโฟลเดอร์ /usr/local/freeswitch/conf/dialplan/default/

เราเลือกสร้างไฟล์ 00_main_menu.xml ในโฟลเดอร์ /usr/local/freeswitch/conf/dialplan/default/

 

 

เมื่อทำทุกอย่างเสร็จให้เข้า mode cli แล้ว reloadxml เริ่มทดสอบ ivr ได้แล้วว่าทำงานตามที่ต้องการหรือไม่

#fs_cli

freeswith@siptek > reloadxml

จากโทรศัพท์ภายลองกด 5050 ก็จะได้ยินเสียงระบบตอบรับ ลองกด ตัวเลือกต่างๆ ว่าทำงานได้ตามต้องการหรือไม่

ถ้าต้องการให้สายนอกโทรเข้า IVR ก็ต้องทำ inbound route เข้า extension 5050 (ดูบทความตอนที่ 4 เรื่อง inbound route)